วันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

Review : HTC One Max พี่ใหญ่จากตระกูล ONE มาพร้อม ความสามารถเต็ม MAX !!

Review : HTC One Max พี่ใหญ่จากตระกูล ONE มาพร้อม
ความสามารถเต็ม MAX !!

สวัสดีเพื่อนๆชาว TechXcite วันนี้ MrXcite จะมารีวิวมือถือเจ๋ง ๆ เก๋ ๆ ใหม่ล่าสุดมาฝากกันอีกแล้ว ซึ่งหลังจากที่บรรดาค่ายยักษ์ใหญ่ต่างๆก็ได้ทยอยเปิดตัวแฟบเล็ตออกมาสู่ตลาดกันอย่างมากมาย อาจเป็นเพราะกระแสการใช้งานแฟบเล็ตกำลังได้รับความนิยม HTC ก็เป็นอีกค่ายหนึ่งที่ปล่อยแฟบเล็ตออกมาสู่ตลาดเช่นกันนั่นก็คือรุ่น HTC One Max ที่เราจะเอามารีวิวให้ได้ชมกันวันนี้ สำหรับรุ่นนี้ต้องขอบอกก่อนว่ามาพร้อมกับจอใหญ่ 5.9 นิ้ว ความละเอียดระดับ FullHD พร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดอย่าง ระบบสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังของตัวเครื่อง(Fingerprint sensor) ที่คล้ายๆกับระบบ Touch ID ของ iPhone 5s แต่จะเป็นอย่างไรต้องติดตามดูกันครับ

อย่างแรกที่ต้องขอพูดถึงก่อนเลยก็คือ ขนาดจอที่ใหญ่ถึง 5.9 นิ้ว ของเจ้า HTC One Max ที่มาพร้อมกับความคมชัดระดับ FullHD 1920×1080 พิกเซล ซึ่งนับว่าเป็นข้อดีมากๆของหน้าจอคมชัดระดับนี้ เนื่องด้วยการที่เป็นแฟบเล็ต รูปแบบการใช้งานที่เป็นการดูหนัง ดูวีดีโอ หรือแม้กระทั่งแต่อ่าน E-book ต่างๆ ที่ต้องการความคมชัดของหน้าจอเพื่อการใช้งานที่ได้ประสิทธิภาพ เต็มอรรถรส นอกจากนั้นแล้วยังใช้หน่วยประมวลผลกราฟฟิก Adreno 320 ที่ทำให้สามารถทำงานได้ดีภายใต้หน้าจอ FullHD อีกด้วย


สำหรับเจ้า HTC One Max ออกจากโรงงานมาพร้อมกับ Android 4.3 (Jelly Bean) และใช้ HTC Sense UI ใหม่ล่าสุดอย่าง HTC Sense 5.5 ที่ทำงานได้ลื่นไหลแบบสุดๆ ไม่มีอาการกระตุก สะดุด ให้เป็นที่รบกวนจิตใจกันอีกแล้ว ส่วน HTC BlinkFeed (หน้าติดตามข่าวสารหรือเนื้อหาต่างๆที่เราสนใจ) ก็ยังมีอยู่เหมือนเดิม โดยคราวนี้สามารถเลือกได้ว่าจะเปิดใช้งานหรือจะปิดก็ได้ รวมทั้ง ฟังก์ชั่น ลูกเล่นต่างๆ อยู่ครบถ้วนเหมือนเดิม

มาว่ากันต่อที่เรื่องของสเปค HTC One Max เครื่องนี้ใช้ ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 600ความเร็วที่ 1.7 GHz ใส่แรมมาให้ 2GB หน่วยความจำตัวเครื่อง 16GB สามารถเพิ่ม MicroSD สูงสุดถึง64GB ซึ่งรับรองว่าถูกใจหลายๆคนที่ชอบโหลดแอพฯเยอะๆ รวมทั้งเก็บเพลงหรือหนังไว้ในเครื่องกันแล้วครับ

และที่ประทับใจมากๆเลยก็คือเรื่องของ แบตเตอรี่ Li-ion 3300 mAh ที่ต้องยกนิ้วให้ถึงความอึด แต่ไม่ใช่อึดธรรมดาต้องบอกว่าอึดมากๆถึงจะถูก เพราะหลังจากที่ได้ลองใช้งานมาสักระยะหนึ่ง โดยกิจกรรมประจำวันที่ทั้ง เปิด3G เล่นเกม ดูฟัง ฟังเพลง ท่องโลกโซเชียล ก็ไม่ได้เป็นปัญหากับเจ้าแบตฯก้อนนี้แต่อย่างใด รับรองว่าสามารถใช้งานทั้งวันแบบไม่ต้องชาร์ตได้สบายๆ สำหรับใครที่ชอบใช้งานแบบหนักหน่วง ฮาร์ดคอร์บอกเลยว่า HTC One Max เอาอยู่ครับ !!


ในส่วนของการดีไซน์ถ้าจะบอกว่าเป็น HTC One ขยายร่างก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะรูปร่างหน้าตาภายนอกเหมือนกันแบบพี่น้องคลานตามกันออกมาเลย 555 โดยวัสดุที่ใช้กับยังเป็นอลูมิเนียมคุณภาพดีที่ให้ความรู้สึก หรูหรา มีระดับ อีกทั้งยังน่าใช้งานอีกเช่นเคย ที่จะแตกต่างออกไปหน่อยจากเดิมก็คือ สามารถถอดฝาหลังออกได้เพื่อที่จะใส่ซิมการ์ด และ MicroSD แต่ไม่สามารถถอดแบตฯได้นะครับ

โดยขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 164.5 x 82.5 x 10.3 มิลลิเมตร น้ำหนัก 217 กรัม ซึ่งขนาดก็ใกล้เคียงกับSamsung galaxy note 3, Oppo N1 และ Nokia lumia 1520 ก็ต้องบอกขนาดใหญ่อยู่พอสมควรสำหรับใครที่เคยใช้สมาร์ทโฟนรุ่นเล็กๆมาก่อน แรกๆอาจจะไม่ชิน แต่ใช้ไปสักระยะหนึ่งรับรองว่าจะต้องหลงเสน่ห์กับหน้าจอใหญ่จนไม่อยากกลับไปใช้หน้าจอเล็กๆกันอีกแน่นอนครับ

มาดูตัวเครื่อง HTC One Max กันหน่อยว่าจะหรูหรา น่าใช้งานขนาดไหน !! 


ด้านหน้าอย่างแรกเลยก็จะพบกับลำโพงคู่หน้า BoomSound ที่พลังเสียงก็ยังคงทรงพลังไม่เปลี่ยน โดยด้านบนใช้เป็นลำโพงสำหรับสนทนา ส่วนข้างๆเป็นกล้องหน้าความละเอียด 2.1 ล้านพิกเซล และเซ็นเซอร์ต่างๆ


ด้านหน้าส่วนล่าง ก็เป็น ปุ่ม Back และ ปุ่ม Home โดยที่ตรงกลางเป็นโลโก้ HTC ไม่สามารถกดอะไรได้


ด้านหลังเป็นกล้อง UltraPixel 4 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลช ถัดลงมาด้านล่างนิดนึงเป็นช่องเซ็นเซอร์สำหรับสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อกเครื่องหรือเข้าสู่การใช้งานในโหมดต่างๆตามที่ได้ตั้งค่าเอาไว้ แต่จะใช้งานยังไงต้องติดตามกันครับ

ด้านขวามีปุ่ม Power และปุ่ม เพิ่ม/ลดเสียง


ด้านซ้ายมีสลักไว้สำหรับการเปิดฝาหลัง โดยการใช้งานก็เพียงแค่เลื่อนสลักลงมาเท่านั้น ฝาหลังก็จะเปิดขึ้นอย่างง่ายดาย ^^


ด้านบนมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. และ IR Blaster ตัวส่งสัญญาณอินฟราเรด เพื่อใช้เป็นรีโมท TV ได้

ด้านล่างมี MicroUSB สำหรับชาร์ตแบตฯ และรูไมโครโฟน


เมื่อถอดฝาหลังออกมาก็จะพบกับช่องใส่ซิมการ์ดแบบ MicroSIM และ ช่องใส่ MicroSD Card

รองรับการใช้งาน 3G คลื่นความถี่ 850/900/1900/2100

รองรับการใช้งาน 4G LTE คลื่นความถี่ 900/1800/2100/2600

คราวนี้ก็มาดูนวัตกรรมใหม่ระบบสแกนลายนิ้ว (Fingerprint sensor) ที่เพิ่มเข้ามาใน HTC One Max กันบ้าง โดยการใช้งานเป็นแบบรูดนิ้วจากบนลงล่าง ไม่เหมือนกับ Touch ID ของ iPhone 5s ที่ใช้การวางนิ้วมือลงไป ซึ่งหลังจากลองใช้งานดูแล้วการตรวจจับลายนิ้วมืออยู่ในเกณฑ์ที่ถือว่าใช้ได้ แต่ในบางครั้งถ้าเกิดรูดเร็วเกินไประบบก็จะมีการทำงานผิดพลาดบ้าง และมีบางครั้งนิ้วเผลอไปโดนกล้องหลังเพราะด้วยตัวแหน่งที่อยู่ใกล้ๆกันนั่นเอง แต่โดยรวมแล้วถือว่าทำออกมาได้ดีพอสมควรเลยครับ



การตั้งค่าลายนิ้วมือสามารถเลือกได้ว่าต้องการใช้นิ้วไหนในการสแกน หลังจากนั้นระบบจะให้เราทำการสแกนลายนิ้วมือเพื่อยืนยันจำนวน 3 ครั้ง โดยเราสามารถเลือกได้ว่าต้องการให้นิ้วไหนสแกนเพื่อเข้าสู่โหมดการใช้งานแบบใด ไม่ว่าจะเป็น เปิดกล้อง, หน้าแรก หรือคำสั่งเสียง นอกจากนั้นยังสามารถเพิ่มเติมโหมดคำสั่งได้ด้วยตัวเอง ซึ่งรองรับได้สูงสุด 3 ลายนิ้วมือ (งานนี้ก็เลือกเอาแล้วกันว่าชอบนิ้วไหนกันบ้าง 555) 
และในกรณีที่ต้องการใช้งานเครื่องของเราโดยไม่สแกนลายนิ้วมือก็สามารถเลือกแบบใส่รหัสผ่านที่ทำการบันทึกเอาไว้ในระบบได้เช่นกัน

ในส่วนของหน้าจอ UI ที่ใช้ HTC Sense UI เวอร์ชั่นใหม่ 5.5 การใช้งานต่างๆ รวมถึงรูปร่างหน้าตาโดยรวมก็ยังคงเหมือนเดิมกับในเวอร์ชั่นที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องเกี่ยวกับการจัดการแอพฯ หรือการเพิ่ม Widgets ก็ยังคงใช้งานได้ดีเหมือนเดิม


HTC Sense UI เวอร์ชั่น 5.5 เราสามารถเลือกได้ว่าจะ เปิดหรือปิด ใช้งาน HTC BlinkFeed ได้แล้วครับ


อีกหนึ่งอย่างที่ยังคงประทับใจไม่เปลี่ยน คือ Music ที่มีโหมด Visualizer มาให้อีกเช่นเคย ซึ่งทำให้รู้สึกได้อารมณ์ อรรถรสในการฟังเพลงเพิ่มมากขึ้นจริงๆ แถมมีเนื้อเพลงให้เราร้องตามกันได้แบบสบายๆเลย (ไม่ต้องดำน้ำกันแล้ว !!)


และเมื่อใช้สองนิ้วลื่นจากขอบหน้าจอบนลงมาก็จะพบกับ เมนูลัดบนแถบแจ้งเตือนต่างๆให้เลือกมากมาย โดยที่เราสามารถย้ายตำแหน่งการจัดวางเมนูลัดได้ตามความถนัดในการใช้งานของเราได้อีกด้วย คราวนี้จะ เปิด/ปิด เมนูไหนก็เชิญกันตามสบาย ^^
ถึงเวลามาดูผลงานภาพถ่ายจากเจ้า HTC One Max ที่ยังคงใช้เทคโนโลยี UltraPixel 4MP แล้วว่าจะสวยงาม ตระการตา ขนาดไหน !!

ภาพจากกล้องหน้า









ภาพจากกล้องหลัง

ต้องบอกว่าได้ภาพที่สวยงาม ทั้งสีสัน ความคมชัดของภาพ ไม่ว่าจะถ่ายเวลากลางหรือกลางคืนก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆครับ
ในเรื่องของการดูหนัง ดูวีดีโอต่างๆ ด้วยระดับความละเอียดระดับ FullHD ก็ให้ภาพที่คมชัด เต็มตาดีเหลือเกิน (ชอบหน้าจอใหญ่ๆก็ตรงนี้แหละ 555) และที่สำคัญมีระบบเสียง BoomSound ยิ่งทำให้เพิ่มความมันเป็นทวีคูณเลยครับ
สำหรับคอเกมก็หมดห่วงกันได้เลย เพราะหลังจากที่ได้ลองทดสอบด้วยการเล่นเกม Asphalt 8 และ Injustice ผลปรากฎว่าลื่นไหลไม่มีอาการสะดุดแต่อย่างใด อีกทั้งเล่นได้แบบเพลินๆเลย เพราะแบตฯอึดมาก ไม่ต้องมาห่วงว่าเล่นนานๆแล้วแบตฯจะหมดเร็วด้วย (เริ่มหลงรัก HTC One Max เข้าแล้วสิ๊เรา >///< )

มาปิดท้ายกันด้วย การทดสอบประสิทธิภาพ ความแร๊ง !! อีกเช่นเคย

ทดสอบกันด้วยแอพฯยอดฮิตอย่าง Antutu Benchmark ได้ผลคะแนนออกมาที่ 26,461 คะแนน นับว่าอยู่ในระดับที่สูงพอสมควรเลย

สรุป
HTC One Max นับว่าเป็นแฟบเล็ตอีกตัวที่หน้าสนไม่น้อย ด้วยสเปคและนวัตกรรมต่างๆที่ HTC ใส่มาอย่างเต็มที่ ที่ทำให้ใช้งานได้ครบทุกฟังก์ชั่น รวมถึงวัสดุหรืองานประกอบเป็นอลูมิเนียมที่นอกจากจะให้ความหรูหรา สวมงาม น่าใช้งานแล้วยังมาพร้อมกับความแข็งแรงทนทานอีกด้วย

และยังมีระบบใหม่ล่าสุดอย่าง ระบบสแกนลายนิ้วมือที่เพิ่มเข้ามาช่วยในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยให้ดีขึ้นอีกด้วย ที่สำคัญจุดเด่น อย่าง HTC BlinkFeed หรือ ระบบเสียง BoomSound อันทรงพลังก็ยังอยู่ครบถ้วน กล้องก็มีการพัฒนาขึ้นให้ถ่ายภาพได้สวยงาม คมชัด ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน โดยรวมแล้วถือว่าน่าใช้งานมาก ๆ ส่วนราคามือถือนั้นอยู่ที่ 23,900 บาท

จุดเด่น
- ความละเอียดหน้าจอ FullHD 1080p
- ระบบสแกนลายนิ้ว (Fingerprint sensor)
- แบตเตอรี่ขนาด 3,300 mAh ที่สามารถรองรับการใช้งานได้ตลอดทั้งวัน
- ใช้วัสดุอลูมิเนียมคุณภาพดีให้ความหรูหรา สวยงาม และแข็งแรง ทนทาน
- ระบบเสียง BoomSound ให้เสียงดังกังวาน ทรงพลัง
- รองรับ 4G LTE คลื่นความถี่ 900/1800/2100/2600

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น